วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

การรักษาโรคสิว ฝ้า หน้ามัน อุดตัน

ในทางการแพทย์แผนไทยมีแนวคิดว่า สิวเกิดจากปิตตะพิการ แล้วปิตตะคืออะไร
              ปิตตะ คือ ความร้อน เป็นสิ่งที่ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ความหิวความกระหาย ความเปล่งปลั่ง สดชื่น  เมื่อกระทำโทษจะทำให้เกิดอาการหลาย ๆ รูปแบบ รวมถึงทำพิษให้โลหิตพิการ เกิดการอักเสบ ส่งผลให้เกิดฝีหนอง หรือสิวหนองชนิดต่าง ๆ ดังนั้นหลักการรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนไทย คือ ปรับปิตตะหรือความร้อนภายในร่างกาย

8 ความคิดเห็น:

  1. วิธีรักษาได้อย่างไรได้บ้าง?

    1. รับประทานสมุนไพรที่มีรสชาติขม เย็น หรือจืด

    ในทางการแพทย์แผนไทยอาหารและสมุนไพรรสขมเย็น หรือจืด มีคุณสมบัติในการรักษาโรคทางปิตตะ สามารถระงับธาตุไฟในร่างกายได้ มีสรรพคุณในการระงับน้ำเหลืองเสียต่าง ๆ ที่ไหลออกจากร่างกายได้ แก้โลหิตพิการ เช่น บอระเพ็ด รากปลาไหลเผือก กระดอม ฯลฯ แต่สมุนไพรบางชนิดอาจเป็นพิษเมื่อรับประทานเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นการรับประทานผักผลไม้ที่มีรสขม เย็น หรือจืดที่หาได้ง่ายจึงเป็นหนทางที่ปลอดภัยกว่า เช่น ฟัก บวบ มะระ ย่านาง บัวบก เห็ด ยอดสะเดา เป็นต้น หรือรับประทานเป็นผักหลาย ๆ ชนิดจิ้มน้ำพริกรับประทาน

    ตอบลบ
  2. 2. ขับถ่ายทุกวัน การขับถ่ายไม่ว่าจะเป็นปัสสาวะหรืออุจจาระ เป็นการนำความร้อนส่วนเกินออกจากร่างกาย ดังนั้นผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อย ๆ จะมีปัญหาความร้อนอยู่ภายใน ส่งผลให้เกิดสิวได้ การขับถ่ายเป็นประจำทุกวันจึงช่วยให้ปิตตะของร่างกายสมดุล แนะนำให้รับประทานอาหารรสหวานที่มีฤทธิ์ระบาย เช่น น้ำลูกพรุน องุ่น กล้วย มะละกอ ส้มหวานต่างๆ แก้วมังกร เป็นต้น

    ตอบลบ
  3. 3. นอนหลับให้เพียงพอ ข้อนี้อ่านแล้วหลายคนบอกว่า “ฉันนอนพอแล้วนิค่ะ ทำไมยังเป็นสิวอีก แถมยังนอนเกิน 8 ชั่วโมงอีกด้วยจะไม่พอได้อย่างไร” ก็คุณเล่นนอนตีหนึ่งตีสองแล้วมาตื่นตอนเที่ยงวัน อันนี้เป็นสิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดในเรื่องของการนอน ร่ายกายของคนเราจะมีการฟื้นฟูสภาพร่างกาย คล้าย ๆ กับการชาร์ตแบตเตอร์รี่ร่างกาย โดยปกติคนเราจะหลับได้ดีในภาวะที่มืดสนิท โดยเฉพาะในช่วงสี่ทุ่ม-ตีสอง ถ้าเราได้หลับสนิทในช่วงเวลานี้ ร่างกายก็จะได้พักผ่อนและฟื้นฟูสภาพร่างกายได้เต็มที่ สามารถกำจัดพิษในร่างกายได้สมบูรณ์ ทำให้ธาตุไฟในร่างกายไม่กำเริบ สังเกตได้ว่าคนที่ชอบนอนดึก มักมีภาวะร้อนใน หรือแผลในปากบ่อยๆ

    ตอบลบ
  4. 4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลายคนคงได้ยินเรื่องการดื่มน้ำว่าควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 7-8 แก้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่หลายคนเข้าใจผิดมักจะดื่มน้ำทีเดียวครั้งละมาก ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะร่างกายเรามีการรักษาสมดุลของปริมาณน้ำ การดื่มน้ำมากเกินไปในแต่ละครั้งก็จะทำให้ร่างกายปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายขับน้ำออกโดยไม่ทันได้ดูดซึมเข้าร่างกายอย่างเต็มที่ และที่ร้ายกว่านั้น คือ การดื่มน้ำเยอะ ๆ ในมื้อของอาหาร จะมีผลทำให้น้ำย่อยเจือจาง ทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด การขับถ่ายผิดปกติ และส่งผลต่อธาตุไฟในร่างกายภายหลัง ดังนั้นเราควรดื่มน้ำพอดับกระหาย เน้นจิบบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงน้ำเย็น หรือน้ำอัดลม

    ตอบลบ
  5. 5. ออกกำลังกาย ออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ้าง เน้นการเดิน โยคะ หรือฤๅษีดัดตน เพราะไม่กระทบการเทือนต่อร่างกายมากเกินไป แพทย์แผนไทย ถือว่าร่างกายเป็นสิ่งที่ต้องทะนุถนอม

    ตอบลบ
  6. 6. รักษาความสะอาดของผิวกาย ใบหน้า เสื้อผ้าและเครื่องใช้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวและใบหน้าของตนเอง อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น หมั่นซักทำความสะอาดเสื้อผ้า หมอน และที่นอน

    ตอบลบ
  7. 7. ปรับสภาพจิตใจ การปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ก็ช่วยปรับสภาวะปิตตะในร่างกายได้ เช่น การเล่นสนุกสนานกับเด็ก ๆ คุยกับเพื่อที่ถูกคอ ดมกลิ่นอาหารดีๆที่กำลังหุงต้ม พยายามรื่นเริงกับสิ่งที่ทำให้เบิกบานใจ เช่น เครื่องแต่งกายสวยๆ ดอกไม้ อัญมณีต่างๆ อาบน้ำเย็นที่มีกลิ่นหอมชื่นใจ ฟังดนตรี ดูมโหรีที่ไพเราะ นั่งชมวิวทิวทัศน์ มีลมพัดเอื่อยๆ รวมความคือการรักษาโรคปิตตะต้องใช้ความเย็น ความสนุก ความแจ่มใส ความพอใจและความร่าเริง

    ตอบลบ
  8. แม้จะมียาที่มีสรรพคุณดีเพียงใด การปฏิบัติตัวของเราก็สำคัญมากเช่นกัน การที่ปิตตะกระทำโทษนั้นตามโบราณบอกไว้ว่า เกิดจากการรับประทานของเผ็ดจัด รับประทานเกลือมาก อาหารไม่ย่อย ตากแดดมาก เสพกามคุณมาก กินอาหารบางอย่างที่เป็นพิษกับปิตตะเช่น นมข้น สุรา หรือของรสเปรี้ยว ดังนั้นอาหารหรือพฤติกรรมเหล่านี้จึงควรหลีกเลี่ยง ถ้าปฏิบัติได้ตามนี้เรื่องสิวก็จะไม่เป็นปัญหากับเราอีกต่อไป

    ตอบลบ